วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ยี่ห้อรถที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย 10 อันดับ

 

เปิดยี่ห้อรถที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย 10 อันดับ


ใครที่กำลังมีแพลนจะถอยรถใหม่ป้ายแดง แต่ยังคิดไม่ตกกับ “ยี่ห้อรถ” จะเลือกแบรนด์ไหน รุ่นไหนดี? รถสเป็คยุโรปก็สวยหรู ดีดู รถสเป็คญี่ปุ่นก็ขับเคลื่อนดี หาอะไหล่ง่าย วันนี้คาร์ฮีโร่จะพาคุยไปทำความรู้จักรถมียี่ห้ออะไร บ้าง? แล้วประวัติความเป็นมาเป็นอย่างไร รถยี่ห้อนี่ต้องเลือกรุ่นอะไรถึงไม่มีเอ้าท์ อย่ารอช้ามาหาคำตอบกัน!

 

Toyota

Toyota

ยี่ห้อรถที่โด่งดังและได้รับการยอมรับจากผู้คนทั่วโลกอย่าง Toyota แท้จริงแล้วเริ่มต้นจากอุตสาหกรรมทอผ้าที่ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1867 ต่อมาในปีค.ศ. 1918 ทางบริษัทก็ได้ผลิตเครื่องทอผ้าอัตโนมัติขึ้น ในเวลาต่อมาระบบการทอผ้าอัตโนมัตินี้ก็ได้ถูกถ่ายโอนและขายสิทธิบัตรให้กับบริษัทในอังกฤษ จวบจนปี  ค.ศ. 1933-1935 ก็ได้ถือกำเนิดแบรนด์ “Toyoda” และรถยนต์รุ่นแรกอย่าง A1 รถยนต์ขนาดเล็ก และ G1 รถบรรทุก แม้จะจัดจำหน่ายในช่วงสภาวะเศรษฐกิจแปรปรวนในประเทศญี่ปุ่น แต่ยอดขายกลับถล่มทลาย สร้างกำไรให้บริษัทเป็นจำนวนมาก จนสามารถนำเม็ดเงินเหล่านั้นไปต่อยอดสู่รถยนต์รุ่นอื่นๆ เป็นลำดับต่อไป

 

ในปี 1936 “Toyoda” เปลี่ยนชื่อเป็น “Toyota” ที่สื่อถึง "Infinity" หรือ ไม่มีสิ้นสุด  พร้อมเปิดตัว Logo 3 ห่วง โดยวงรีทั้ง 2 วง ที่ซ้อนกันหมายถึงการผลึกร่วมหัวใจ 2 ดวงได้แก่ “หัวใจของผู้ใช้รถ” ในขณะวงรีแนวตั้งจะสื่อถึง “หัวใจของรถโตโยต้า” และวงรีวงใหญ่ที่รวมทั้ง 2 วงเข้าด้วยกันสื่อถึง “การขยายตัว” เปรียบได้กับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีของรถยนต์ยุคใหม่ที่จะก้าวหน้าต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

 

มาจนถึงในปีค.ศ. 1962 หรือ พ.ศ. 2505 มีการนำรถยนต์ “Toyota” เข้ามาสู่ประเทศไทยในชื่อ Toyota Motor Thailand Co., Ltd. และนับเป็นปีที่ทาง “Totoya” สามารถผลิตรถยนต์เป็นคันที่ 1 ล้านได้อีกด้วย โดยปัจจุบันรถยนต์ “Toyota” วางจำหน่ายอยู่ 3 ประเภทได้แก่

  1. รถส่วนตัว (Personal Cars) รุ่นฮิต CAMRY 2.5HV Premium, Vios Mid, Corolla Cross 1.8 Sport
  2. รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ (Commercial Cars) รุ่นฮิต Hilux Revo Prerunner & 4x4 2.4 Entry
  3. รถยนต์อเนกประสงค์  (SUV)  รุ่นฮิต Fortuner 2.4V, Alphard VIP, Sienta 1.5G

 

Isuzu

 

Isuzu

Isuzu ถูกก่อตั้งในชื่อ Tokyo Ishikawajima Shipbuilding & Engineering Company เริ่มเข้าสู่วงการอุตสาหกรรมยานยนต์จากผลกำไรที่ได้มาจากการสร้างเรือในปีค.ศ. 1893 ต่อมาได้ร่วมลงทุนกับพันธมิตรบริษัทยานยนต์สัญชาติอังกฤษ Wolseley Motors Limited  และผลิตรถยนต์โดยสารคันแรกได้สำเร็จในปีค.ศ. 1922 โดยมีชื่อรุ่นว่า Wolseley A9 จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นทางบริษัทจึงได้มีการผลิตรถบรรทุกรุ่นต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

ในปีค.ศ. 1927 Tokyo Ishikawajima Shipbuilding & Engineering Company ได้ยกเลิกสัญญากับ Wolseley Motors Limited และดำเนินธุรกิจยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่นอย่างเต็มตัวรุ่นแรกโดยใช้ชื่อว่า "Sumida" จากนั้นได้ทำการแยกแผนกรถยนต์ออกมาก่อตั้งเป็นบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ Ishikawa Automotive Works Co., Ltd. และ ในปีค.ศ. 1933 ทางบริษัทก็ได้ปล่อยรถยนต์ “Isuzu” ออกมา โดยที่มาของชื่อนั่นได้มาจากแม่น้ำอีซูซุ ณ จังหวัดมิเอะ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อบริษัทมาเป็น  “Isuzu” ในที่สุด โดยปัจจุบันรถยนต์ “Isuzu” วางจำหน่ายอยู่ 2 ประเภทได้แก่

  1. รถกระบะ รุ่นฮิตอย่าง D-MAX Hi-Lander 3.0 Ddi M A/T, D-MAX Spark 1.9 Ddi B
  2. รถอเนกประสงค์ (SUV)

 

Honda

Honda

รถยี่ห้อนี้เริ่มต้นจากการพัฒนาจักรยานยนต์แบบติดเครื่องยนต์และรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อที่ถูกนำไปลงสนามประลอง F1 ณ ประเทศฝรั่งเศส และกวาดรางวัลชนะเลิศกลับมา ซึ่งหลังจากการได้รับชัยชนะครั้งนั้นก็ทำให้แบรนด์โด่งดังเป็นพลุแตก จึงกลับมาพร้อมการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่าง Honda Civic ในตำนาน โดดเด่นที่ใช้เทคโนโลยี CVCC ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ต่อมาเพียง 4 ปีให้หลัง ก็ได้เปิดตัวรถยนต์อีกรุ่นในตำนานอย่าง Honda Accord 

 

Honda ได้ขยายตลาดเข้ามาในไทยในปี ค.ศ.1964 หรือ พ.ศ. 2507 อีกทั้งได้เริ่มจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์รวมถึงเครื่องยนต์อเนกประสงค์นำเข้า จากนั้นจึงเริ่มดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อ Honda Car (Thailand) เพื่อจัดจำหน่ายรถยนต์ พร้อมทั้งก่อตั้งโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมบางชัน ภายหลังได้ผนวกส่วนงานผลิตและการจัดจำหน่ายไว้ด้วยกัน โดยปัจจุบันรถยนต์ Honda วางจำหน่ายอยู่ 2 ประเภทได้แก่

  1. รถส่วนบุคคล (Personal Cars รุ่นฮิตอย่าง BRIO AMAZECITY, CIVIC, ACCORD, HATCHBACK, JAZZ, CIVIC HATCHBACK
  2. รถอเนกประสงค์ (SUV/Crossover)  รุ่นฮิตอย่าง HR-V,  CR-V, MOBILIO

 

Mitsubishi

Mitsubishi

นับเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อรถที่เริ่มต้นจากธุรกิจอื่น แรกเริ่ม Mistubishi ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1870 เป็นบริษัทขนส่งสินค้า จากนั้นได้ผันตัวมาสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ผลิตรถโดยสารครั้งแรกในปีค.ศ. 1917 ต่อมาในปีค.ศ. 1970 แผนกยานยนต์ก็ได้ทำการแยกตัวจากบริษัทแม่มาโฟกัสที่รถยนต์อย่างเต็มตัว และนั่นก็คือจุดถือกำเนิด Mitsubishi ในปัจจุบัน

 

Mitsubishi เข้ามาในประเทศไทยเมื่อปีค.ศ. 1961 หรือพศ. 2504 ภายใต้ชื่อบริษัทสิทธิผล มอเตอร์ จำกัด ผู้ถือสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายรถยนต์ Mitsubishi สามล้อรุ่น Leo และรถยนต์รุ่น Colt ภายหลังได้มีการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Mitsubishi Motors (Thailand) Co.,Ltd  จากนั้น Mitsubishi ประเทศไทยก็ได้ทำการส่งออกกระบะได้เป็นจำนวน 1 ล้านครั้งในระยะเวลาเพียง 4 ปี โดยปัจจุบันรถยนต์ Mitsubishi วางจำหน่ายอยู่ 3 ประเภทได้แก่

  1. รถอเนกประสงค์ (SUV)
  2. รถกระบะ  รุ่นฮิตอย่าง Triton
  3. รถส่วนตัว (Personal Cars) รุ่นฮิตอย่าง Attrage, Mirage

 

MG

MG

ยี่ห้อรถจากประเทศอังกฤษอย่าง MG ก่อตั้งในปีค.ศ. 1923 และได้สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นครั้งแรกกับรุ่น EX120 ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อลงประลองในสนามแข่งโดยเฉพาะ สามารถทำความเร็วได้ที่ 100 ไมล์/ชั่วโมง ต่อมาได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการผลิตรุ่น K3 Magnette ที่นับเป็นรุ่นที่สร้างชื่อให้กับ MG ได้อย่างท่วมท้น ถึงกับสามารถเอาชนะทีม Ferrari ได้ที่ความเร็ว 105 กิโลเมตร/ชม หลังจากนั้นก็มีการผลิตรถยนต์รุ่นต่างๆ สู่ตลาดด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัย และโครงสร้างเหล็กที่แข็งแรง สามารถทำยอดขายได้ถึง 1 แสนคัน

 

MG ได้ถูกนำเข้ามาขายในประเทศไทยมานานกว่า 50 ปี โดยเฉพาะรถในตระกูลอย่าง MGB แต่ได้เข้าดำเนินธุรกิจ MG อย่างเป็นทางการในปีค.ศ. 2013 หรือ พ.ศ. 2556 โดย CP และ SAIC จับมือรวมทุนก่อตั้งบริษัท SAIC Motor-Cp Co., Ltd. สำหรับมาผลิตและจำหน่ายรถแบรนด์อังกฤษ MG ในประเทศไทย บุกตลาดรถยนต์ส่วนบุคคลในไทยและอาเซียนอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันรถยนต์ MG วางจำหน่ายอยู่ 4 ประเภทได้แก่

  1. รถยนต์ส่วนบุคคล (Personal Cars) รุ่นฮิตอย่าง MG3, MG5
  2. รถอเนกประสงค์ (SUV) รุ่นฮิตอย่าง ZS 2022, EP 2022, HS 2022
  3. รถกระบะ รุ่นฮิตอย่าง Extender
  4. รถตู้ รุ่นฮิตอย่าง MG V80

 

Ford

Ford

ยี่ห้อรถ Ford ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1903 ในนาม Ford Motor Company โดยรถยนต์คันแรกชื่อว่า Ford Quadricycle ต่อมาได้ผลิตรถยนต์อย่าง Ford Model T รถยนต์รุ่นบุกเบิก ออกวางจำหน่ายในราคาเพียง 360 ดอลลาร์ ซึ่งได้รับการตอบรับดีจนเกินคาด เนื่องด้วยเป็นรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์สวยงาม แข็งแรง ราคาจับต้องได้ สามารถทำยอดขายได้ถึง 15 ล้านคัน

 

นอกจากนี้ยัง Ford ยังขยายการผลิตไปสู่เครื่องบินอย่าง Ford 4AT Trimotor ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 จนทำให้ Ford มีส่วนช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ให้ก้าวหน้าขึ้นอย่างก้าวกระโดด

 

Ford ได้ถูกนำเข้ามาครั้งแรกในประเทศไทยในนาม Ford Thailand แต่ก็ได้ยุติกิจการลง ก่อนจะกลับมาตีตลาดไทยอีกครั้งด้วยการเปิดโรงงานการผลิตภายใต้ชื่อ AutoAlliance(Thailand) Co., Ltd.  ตามมาด้วย Ford Services (Thailand) Co., Ltd. ที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านกิจกรรมการตลาด ตลอดจนควบคุมการจัดจำหน่ายทั่วประเทศ ในปัจจุบันวางจำหน่ายอยู่ 2 ประเภทได้แก่

  1. รถอเนกประสงค์ (PPVS) รุ่นฮิตอย่าง Nextgen Everest Titanium
  2. รถบรรทุกขนส่ง (Truck) รุ่นฮิตอย่าง Ranger

 

Mazda

Mazda

จากธุรกิจจุกไม้ก็อกสู่เจ้าตลาดยานยนต์ Mazda ได้ถือกำเนิดเมื่อปีค.ศ. 1920 ในนามบริษัท Toyo Cork Kogyo ค.ศ. 1931 เปิดตำนานด้วยรถคันแรกอย่างรถสามล้อที่มีที่ชื่อว่า “Green Panel” จนได้รับความนิยม ต่อมาได้มีการพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมด้วยเครื่องยนต์โรตารี่ นับเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเดียวของโลกที่ใช้เครื่องยนนต์โรตารี่เสริมจากเครื่องยนต์ที่มี่อยู่ในตลาดจวบจนปัจจุบัน โดยเริ่มต้นจากรถสปอร์ตรุ่น Cosmo 110S ส่งต่อตำนานสู่ RX-7 และ RX-8 จากนั้นในปีค.ศ. 1989 ก็ถือกำเนิดการกลับมาของตำนานรถสปอร์ตโรดสเตอร์ หลังจากที่ช่วงนั้นไม่มีผู้ผลิตรายใดผลิตรถสปอร์ตโรดสเตอร์ออกมาเลย Mazda ทำการคิดค้นและพัฒนารถสปอร์ตโรดสเตอร์อีกครั้งจนได้มาเป็น MX-5 นับเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ขายดีที่สุดในโลก

 

Mazda เข้ามาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อปีค.ศ. 1975 หรือพ.ศ. 2518 ในชื่อบริษัท สุโกศล มาสด้า อุตสาหกรรม รถยนต์ จำกัด ผู้ถือเอกสิทธิ์จำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว และเกิดโรงงานประกอบรถยนต์ของมาสด้าในประเทศไทยแห่งแรก จากนั้นเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Mazda Sales (Thailand) Co., Ltd. มุ่งเน้นไปที่การทำการตลาดด้ายงานขายและงานบริการลูกค้า อีกทั้งสนับสนุนผู้แทนจัดจำหน่ายเพื่อสร้างมาตรฐานและงานบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าและผู้ใช้บริการ

 

ปัจจุบันรถยนต์  Mazda วางจำหน่ายอยู่ 3 ประเภทได้แก่

  1. รถยนต์ส่วนบุคคล (Personal Cars) รุ่นฮิตอย่าง Mazda 2, Mazda 3
  2. รถอเนกประสงค์ (SUV) รุ่นฮิตอย่าง CX-3, CX-30
  3. รถกระบะ

 

Nissan

Nissan

Nissan ได้ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1925 ในนามบริษัท Dat Jidosha Seizo และในปีค.ศ. 1934 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น Nissan Motor Co. หลังจากนั้นมีการเปิดตัวรถยนต์ครั้งแรกอย่าง Datsun 14 อีกทั้งยังมีการผลิตรถยนต์ส่วนบุคคล รถบรรทุก หน่วยกำลังสำหรับกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน หรือเครื่องยนต์ให้แก่กองกำลังทหารญี่ปุ่น ต่อมาในปีค.ศ. 1947 Nissan ได้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งและมุ่งผลิตรถรุ่น Datsun พร้อมคิดค้นเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ อย่างไม่หยุดหย่อนจนได้มาเป็น Nissan Datsun 240 Z รถสปอร์ตคันแรกที่สร้างปรากฏการณ์ในด้านยอดขายได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

ในปีค.ศ. 1966 ได้มีการปรับโครงสร้างบริษัทโดยร่วมมือกับบริษัท พรินซ์ มอเตอร์ คอร์ปและได้ผลิตรถสองรุ่นแรกจากการร่วมมือกันออกมา ได้แก่ Nissan Skyline และ Nissan Gloria โดยสัญลักษณ์ทางการค้าของ Nissan ที่มีลักษณะเป็นวงกลมที่ได้แรงบันดาลใจจาก “ดวงอาทิตย์ขึ้น” ภายหลังได้มีการปรับเปลี่ยนสัญลักษณ์ให้มีความเรียบง่ายมากยิ่งขึ้น มีชื่ออยู่บนสี่เหลี่ยมผืนผ้าและมีวงกลมอยู่รอบในสีเงิน

 

Nissan ได้ถูกนำเข้ามาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในชื่อ Nissan Motor (Thailand) Co., Ltd ในปีค.ศ. 2005 หรือพ.ศ. 2548 ในกลุ่มของสยามกลการ ในปัจจุบันรถยนต์  Nissan วางจำหน่ายอยู่ 3 ประเภทได้แก่

  1. รถส่วนบุคคล (Personal Cars)  รุ่นฮิตอย่าง Almera, March
  2. รถอเนกประสงค์ (SUV)  รุ่นฮิตอย่าง Kicks e-Power
  3. รถกระบะ  รุ่นฮิตอย่าง Navara

 

Suzuki

Suzuki

Suzuki ก่อตั้งเมื่อปีค.ศ. 1909 โดยเริ่มต้นจากบริษัทผลิตเครื่องทอผ้า เมื่อมีการขยายตัวของอุปสงค์ในสินค้าอุปโภคบริโภค Suzuki จึงขยายขอบเขตการผลิต แตกผลิตภัณฑ์อื่นๆ ออกมาจนก่อให้เกิดการผลิตต้นแบบยานยนต์ในปี ค.ศ. 1939 แต่ก็ต้องชะงักลงเมื่อเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วหันกลับมาทำสู่อุตสาหกรรมเครื่องทอผ้าอย่างเดิม แต่เมื่อถึงยุคสิ้นสุดของยุคอุตสาหกรรมฝ้ายในญี่ปุ่นในปีค.ศ. 1951 Suzuki จึงหันมาผลิตรถจักรยานยนต์และรถยนต์ในที่สุด และได้ถือกำเนิด Suzuki Motor Co., Ltd อีกทั้งได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกอย่าง Suzuki Suzulight

ในปี ค.ศ. 2011 หรือ พ.ศ. 2554 Suzuki ได้เข้ามาขยายฐานผลิตในประเทศไทยภายใต้ชื่อ Suzuki Motor (Thailand) Co, Ltd และเริ่มต้นคิดค้นและประกอบรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานระดับสากล หรือ Eco Car รุ่นแรกอย่าง Suzuki Swift ปัจจุบันรถยนต์ Suzuki วางจำหน่ายอยู่ 2 ประเภทได้แก่

  1. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รุ่นฮิตอย่าง Swift, Ciaz, Celerio, Ertiga
  2. รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รุ่นฮิตอย่าง Carry

 

Hino

Hino

Hino ถือกำเนิดในปีค.ศ. 1910 มีรากฐานมาจากอุตสาหกรรมก๊าซในนามของ Tokyo Gas and Electric Industry ต่อมามีการขยายการผลิตมายังชิ้นส่วนอิเท็กทรอนิกส์ จากนั้นจึงมีการผลิตยานยนต์คันแรกขึ้นในปีค.ศ. 1917 นั่นก็คือรถบรรทุกรุ่น TGE “A-Type ต่อมาในปีค.ศ. 1937 ได้มีการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อจัดตั้ง Tokyo Automobile Industry จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อมาเป็น Diesel Motor Industry

 

จนกระทั้งในปีค.ศ. 1942 ได้ถือกำเนิดบริษัทใหม่ทำให้โรงงานมีการแยกตัวออกมาจึงก่อกำเนิด Hino ขึ้นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ Hino นับเป็นกำลังสำคัญในการปฏิบัติภารกิจทางทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง จึงได้มีการพัฒนารถบรรทุกพ่วงสำหรับใช้งานหนักโดยเฉพาะ แต่เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองยุติลง บริษัทจึงมีการยุติกระบวนการผลิตเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับกองกำลังทหาร จากนั้นจึงมุ่งเน้นมาพัฒนารถบรรทุกเทรลเลอร์สำหรับงานหนักและรถประจำทางขนส่งมวลชนอย่างเป็นทางการ

 

รถโดยสารคันแรกเปิดตัวในประเทศไทยในปีค.ศ. 1952 หรือพ.ศ. 2495 ต่อมา 10 ปีให้หลังก็มีตัวแทนจำหน่ายต่างประเทศแห่งแรกเกิดขึ้นที่เมืองไทยนั่นก็คือ Hino Motor Sales (Thailand) Co.,Ltd โดยปัจจุบันรถยนต์ Hino วางจำหน่ายอยู่ 3 ประเภทได้แก่

  1. รถบรรทุก รุ่นฮิตอย่าง FC Model HINO 500 Dominator
  2. รถโดยสารขนาดใหญ่ (Bus) รุ่นฮิตอย่าง Liesse II
  3. รถผสมปูน

ยี่ห้อรถทั้งหมดในโลกนั้นมีมากมาย และเป็นที่นิยมในตลาดต่างกันไป สำหรับ 10 ยี่ห้อรถยอดฮิตในประเทศไทยนั้นได้แก่ Toyota, Isuzu, Honda, Mitsubushi, MG, Ford, Mazda, Nissan, Suzuki และ Hino โดยยี่ห้อรถทุกชนิดต่างก็มีประวัติ จุดเด่นทางสมรรถนะ และการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ผู้ขับเองที่จะต้องเป็นคนเลือกสเป็คที่ใช่ เลือกคันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และการออกแบบภายใน รวมถึงเข้ากันได้กับไลฟ์สไตล์ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจแนวคิดรถแต่ละยี่ห้อ และเจอรถที่ใช่ได้เร็วขึ้น!


ที่มา https://www.carhero.co.th/articles/top-10-brands-car-in-thailand

ยี่ห้อรถที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย 10 อันดับ

  เปิดยี่ห้อรถที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย 10 อันดับ ใครที่กำลังมีแพลนจะถอยรถใหม่ป้ายแดง แต่ยังคิดไม่ตกกับ “ยี่ห้อรถ” จะเลือกแบรนด์ไหน รุ่นไหนด...